Why Feminism Needs to be More Prevalent in Thai Society (ภาษาไทย)

เมื่อคิดถึงวัฒนธรรมไทยเราอาจจะไม่ตั้งคำถามหรือต่อต้านสถานการณ์ความเป็นอยู่ในปัจจุบันไม่ว่าจะเป็นอย่างไรคนไทยโดยเฉลี่ยมักจะไม่ตั้งคำถามกับกฎเกณฑ์ที่เคยมีมา ชุด. ที่สำคัญคนไทยส่วนใหญ่ไม่แสวงหาการเปลี่ยนแปลงหากปัญหาไม่ได้อยู่ที่ใบหน้าของเราแม้ว่ามันจะกินเวลาในชีวิตประจำวันไปแล้วก็ตาม หากสถานการณ์ที่กลืนไม่เข้าคายไม่ออกที่เรากำลังเผชิญคือสิ่งที่เราไม่ได้ถูกโจมตีอย่างแข็งขันหรือปฏิบัติอย่างไม่ยุติธรรมเราก็จะเงียบ มีเพียงเหตุการณ์ที่น่าทึ่งเท่านั้นที่สามารถทำให้เราเดือดดาลได้และสังคมของเราก็เชี่ยวชาญศิลปะการสังเคราะห์สันติภาพแบบผิวเผิน ทุกอย่างล้วนเป็นรอยยิ้มและการปฏิบัติตามจนกว่าเราจะกลายเป็นหุ่นเชิดของละครที่เราออกแบบมาเพื่อตัวเราเอง เราแต่ละคน จำกัด อีกฝ่ายด้วยการตีตราและแบบแผนซึ่งถูกทำให้เป็นมารยาททางวัฒนธรรม หากปราศจากความตระหนักในชุมชนของเราเราก็พยายามมองเห็นปัญหาเพราะเราไม่เคยถูกสอนให้รู้จักพวกเขา การเปลี่ยนแปลงที่จำเป็นเกิดจากการทำลายกระบวนการคิดของเราให้เข้าใจว่า "ปกติ" ของเราในบางแง่มุมนั้นยังห่างไกลจากเรื่องปกติและเป็นที่ยอมรับไม่ได้

ปัญหาเด่นที่เหมาะกับรูปแบบที่ยอมแพ้และปฏิบัติตามนี้คือความผิดปกติของสตรีนิยม อุดมการณ์สตรีนิยมจะต้องถูกดึงเข้าสู่แนวคิดหลักเพื่อนำเสนอสิ่งที่ดีที่สุด สตรีนิยมหมายถึงการเชื่อว่าทุกเพศมีสิทธิและโอกาสเท่าเทียมกัน ก่อนที่จะเจาะลึกลงไปว่าสตรีนิยมหมายถึงอะไรและเหตุใดความแพร่หลายจึงมีความสำคัญต่อสังคมไทยต้องรับทราบและแก้ไขปัญหาความเข้าใจผิดที่พบบ่อย คำว่า“ สตรีนิยม” ถูกบิดเบือนไปในหลาย ๆ ด้านซึ่งนำไปสู่ความคิดเรื่องสตรีนิยมที่เป็นพิษ เป็นที่ยอมรับกันว่าสตรีนิยมที่เป็นพิษอาจไม่ใช่ประเด็นสนทนาที่โดดเด่นในชุมชนไทยเพราะความคิดเรื่องสตรีนิยมแทบไม่ปรากฏขึ้นเลย อย่างไรก็ตามมันเป็นความสำเร็จที่สำคัญในการเสริมสร้างความเข้าใจว่าเหตุใดสตรีนิยมจึงทำให้เกิดความสับสนทั่วโลกและเหตุใดการเคลื่อนไหวจึงยังคงหยุดนิ่งในประเทศส่วนใหญ่ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ของเรา

เพื่อความชัดเจนสตรีนิยมไม่ได้หมายความว่าผู้ชายและผู้หญิงจะเหมือนกันไม่ได้หมายถึงการฆ่าความคิดเรื่องความกล้าหาญและความเป็นสุภาพบุรุษทั้งหมดและไม่ได้กำจัดความแตกต่างของความแตกต่างทางเพศ ฉันเคยคิดเรื่องสตรีนิยมขึ้นมาและถูกต่อต้านด้วย“ การเป็นผู้หญิงก็มีข้อดีเช่นกันและฉันก็ไม่อยากเสียสิ่งนั้นไป” นั่นเป็นเรื่องที่ดีเพราะผู้หญิงจะไม่แพ้สิ่งนั้น ผู้ชายและผู้หญิงไม่ใช่สำเนาคาร์บอนของกันและกัน สตรีนิยมอนุญาตให้ทุกคนมีทางเลือกในลักษณะของตนโดยเสรีโดยไม่มีข้อ จำกัด ที่สังคมสร้างขึ้น เพื่อให้เป็นไปอย่างย่อที่สุดสตรีนิยมคือการปลดปล่อยมันต่อสู้กับความคิดที่ว่ามนุษย์ไม่ใช่ไบนารีสังคมควรจะไม่เป็นแบบแผนและทุกคนมีอิสระด้วยสิทธิและโอกาสที่เท่าเทียมกัน

ในประเทศของเรามีบรรทัดฐานทางวัฒนธรรมการตีตราแบบแผนแบบแผนและความคาดหวังที่ชัดเจนสำหรับเพศที่เฉพาะเจาะจง ผู้หญิงถูกคาดหวังให้ปกปิดในแง่ของรูปลักษณ์และภาษาของพวกเขาเพื่อให้เป็นที่ยอมรับและเป็นที่ยอมรับ ผู้หญิงได้รับคำสั่งให้ปฏิบัติตามยอมจำนนและไม่คัดค้าน ข้อกำหนดคือต้องเดินไปตามทางที่แคบเป็นไปไม่ได้ระหว่างสุภาพกับการผลักดัน (ไม่โอ้อวด แต่สุภาพอย่างถ่อมตัว) ขุดขึ้นโดยอนุสัญญาว่าด้วยเรื่องเพศที่ยาวนานหลายศตวรรษ ไม่ใช่สิ่งที่คนส่วนใหญ่ร่วมมือกันและพยายามอย่างจริงจังที่จะเปลี่ยนแปลง การตีตราที่เป็นมาตรฐานเหล่านี้อาจดูเหมือนไม่มีผล แต่เป็นสาเหตุของความไม่เท่าเทียมกันและการไม่เคารพ

การลดทอนและ จำกัด การปฏิบัติที่ได้รับการเสริมแรงในสังคมทำให้บุคคลหนึ่งเกิดความไม่เคารพต่อผู้หญิงโดยปริยาย (รวมถึงผู้หญิงที่ไม่เคารพตัวเองและไม่รู้จักอำนาจของตนเอง) สิ่งนี้หมุนวนไปสู่ความไม่ตระหนักรู้และความเมินเฉยทั่วไปที่นำไปสู่กรณีการข่มขืนการล่วงละเมิดทางเพศการข่มขืนและความรุนแรงในครอบครัวโดยไม่เคยได้ยินมาก่อน การเยี่ยมบ้านพักพิงสตรีที่เรียกว่า“ บ้านจับเชอร์น” ​​และการสนทนากับผู้นำสอนฉันว่าผู้หญิงส่วนใหญ่ในสถานสงเคราะห์อยู่ที่นั่นเนื่องจากความรุนแรงในครอบครัวในครัวเรือน นอกเหนือจากนี้เรื่องราวของคดีในห้องพิจารณาคดีที่ผู้รอดชีวิตถูกถามคำถามเชิงสอบสวนได้นำไปสู่คำตอบที่สร้างความน่าเชื่อถือในการปฏิเสธ หลายกรณีปล่อยให้ผู้รอดชีวิตไม่ได้รับการสนับสนุนและผู้กระทำความผิดไม่ได้รับการแก้ไขโดยไม่มีการลงโทษเพื่อกีดกันจำนวนคดี รับทราบถึงความคลุมเครือที่อาจเกิดขึ้นมีผู้รอดชีวิตจากทุกเพศ อย่างไรก็ตามปัญหาโดยตรงที่กล่าวถึงคือมีการกดขี่ผู้หญิงอย่างเป็นระบบเนื่องจากกฎหมายที่กำหนดขึ้นจากระบอบปิตาธิปไตยโบราณเช่นการทำแท้งเป็นสิ่งผิดกฎหมาย ประเด็นเหล่านี้เกิดจากความประมาทของห้องพิจารณาคดีที่มีชายเป็นใหญ่

แม้ว่าระบบอาจไม่ได้มีเจตนากดขี่ แต่ก็มีกฎหมายที่ขัดขวางโอกาสของผู้หญิงในทุกด้านของชีวิตโดยไม่ได้ตั้งใจ มีอยู่ในสถานการณ์ที่มีความปรารถนาที่จะขาด แต่ก็ไม่สามารถทำได้ สิ่งนี้ทำให้สตรีนิยมหลอมรวมเข้ากับความคิดของคนไทยได้ยากขึ้น ตัวอย่างเช่นการที่ผู้หญิงคนหนึ่งอาจลาคลอดในอาชีพการงานของเธอทำให้การจ้างผู้ชายเป็นเรื่องที่สมเหตุสมผลมากขึ้นในการตัดสินใจจ้างงาน นี่เป็นวิธีการทำงานของธุรกิจโดยพื้นฐานและไม่มีวิธีอื่นใดนอกจากระบบ มีข้อสันนิษฐานที่มีเหตุผลสนับสนุนว่าผู้หญิงทุกคนในสายงานจะลาคลอดบุตรอย่างน้อยหนึ่งครั้ง อย่างไรก็ตามสมมติฐานนี้ไม่ยุติธรรม มีพื้นที่สีเทารอบ ๆ การตั้งครรภ์ของผู้หญิงและเป็นส่วนบุคคลจนถึงขั้นจับต้องไม่ได้ ดังนั้นวิธีแก้ปัญหาหลักคือการลาเพื่อพ่อซึ่งเป็นประโยชน์เมื่อดำเนินการในประเทศต่างๆเช่นสวีเดนและนอร์เวย์ สิ่งนี้จะเพิ่มความเท่าเทียมกันรวมถึงความเป็นอยู่ที่ดีของทารกแรกเกิดและความสัมพันธ์ระหว่างผู้ปกครอง ความคาดหวังของการลาเพื่อพ่อทำให้นายจ้างไม่มีอคติต่อผู้หญิงโดยอาศัยข้อเท็จจริงที่ว่าพวกเขาอาจอุ้มลูกและปลีกเวลาออกจากงาน นี่เป็นหนึ่งในปัญหานับไม่ถ้วนที่สามารถแก้ไขและเปลี่ยนแปลงได้เฉพาะผ่านระบบและเชื่อมโยงโดยตรงกับโอกาสของผู้หญิง

ประเด็นดังกล่าวแสดงให้เห็นถึงความสำคัญของสตรีนิยม โฟกัสควรเป็นไปตามการกระทำ เราควรมุ่งเน้นไปที่สิ่งที่เราทำได้เพื่อเปลี่ยนการกีดกันทางเพศในสังคมของเรา มีเงื่อนไขที่บิดเบี้ยวแบบแผนแบบแผนบรรทัดฐานทางวัฒนธรรมผู้รอดชีวิตที่เงียบและความขัดแย้งในระบบที่ต้องได้รับการยอมรับและเปลี่ยนแปลง

ไม่ว่าคุณจะเป็นใครคุณมีทางเลือกในการเป็นสตรีนิยม สตรีนิยมไม่สามารถเป็นขบวนการที่หยุดนิ่งในประเทศไทยได้อีกต่อไป เราต้องยอมรับและละเว้นสตรีนิยมที่เป็นพิษแบบแผนแบบแผนและความเข้าใจผิด เราต้องฟังเรื่องราวของผู้รอดชีวิต เราต้องเรียนรู้ความหมายที่แท้จริงว่าสตรีนิยมคืออะไรและเหตุใดจึงมีความสำคัญอย่างยิ่งสำหรับคนรุ่นหลัง เราต่างมีปากเสียงกันเพื่ออธิบายว่าโดยพื้นฐานแล้วมันคือ“ เสรีภาพของผู้หญิงและสิทธิและโอกาสที่เท่าเทียมกัน” ในแง่ที่ง่ายที่สุด เรายังมีเวลาสร้างความแตกต่าง

เรายังมีเวลาที่จะส่งเสริมความเสมอภาคและความยุติธรรมสำหรับผู้หญิงยืนหยัดเพื่อกันและกันต่อต้านความคาดหวังแสดงพลังของผู้หญิงต่อสู้เพื่อสิทธิและโอกาสของพวกเธอ เราทุกคนสามารถสร้างความแตกต่างได้โดยการเปลี่ยนมุมมองเรียนรู้เพิ่มเติมและเผยแพร่ความตระหนักรู้เพื่อให้สตรีนิยมที่แท้จริงและมีสุขภาพดีแพร่หลายในสังคมไทย